7 ปัจจัยสำคัญ ก่อนเลือกทำเลที่ตั้งโกดังในธุรกิจแต่ละประเภท

การเลือกทำเลที่ตั้งโกดังสินค้า เป็นปัจจัยหนึ่งต่อความสำเร็จและสำคัญมากสำหรับธุรกิจแต่ละประเภท  เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อการกระจายสินค้า ต้นทุน และประสิทธิภาพการดำเนินงานของธุรกิจ โกดังที่ดีควรเอื้อต่อการกระจายสินค้า ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 7 ปัจจัยสำคัญที่คุณควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกทำเลที่ตั้งโกดังที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

1. การคมนาคม 

ให้เกิดความสะดวกในการเข้าถึงและการกระจายสินค้า ทำเลที่ตั้งของโกดังควรอยู่ในพื้นที่ที่มีการคมนาคมสะดวก เข้าถึงได้ง่าย ทั้งสำหรับพนักงานและพาหนะขนส่งสินค้า โดยเฉพาะความใกล้ชิดกับเส้นทางคมนาคมหลัก เช่น ถนน หรือทางด่วน เพื่อให้สามารถกระจายสินค้าไปยังลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ควรเลือกทำเลที่เข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ ทางด่วน ทางหลวง สะดวกต่อการขนส่งสินค้า พิจารณาปริมาณรถบนท้องถนน ระยะเวลาการขนส่ง และค่าใช้จ่ายในการขนส่ง

2. ค่าเช่าและภาษีที่ดิน

ค่าเช่าและภาษีที่ดินเป็นต้นทุนหลักที่ผู้ประกอบการต้องพิจารณา เพราะมีผลโดยตรงต่อกำไรขององค์กร ดังนั้น ควรเลือกทำเลที่มีค่าเช่าและภาษีที่ดินในระดับที่เหมาะสมกับขนาดและศักยภาพของธุรกิจ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ค่าเช่าและภาษีที่ดินเป็นค่าใช้จ่ายที่สำคัญสำหรับเจ้าของและผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์ เข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ช่วยให้บริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ความปลอดภัยและการรักษาความมั่นคง

โกดังควรตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อป้องกันการสูญหายและเสียหายของสินค้า รวมถึงความปลอดภัยของพนักงาน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ทั้งนี้อาจพิจารณาถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ เช่น กล้องวงจรปิด, รปภ. หรือระบบเตือนภัย

ป้องกันการสูญหายและเสียหายของสินค้า

  • การโจรกรรม : โกดังในพื้นที่ที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่อการโจรกรรมสินค้า โดยมีระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด รั้ว และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
  • ความเสียหาย : พื้นที่ที่มีความปลอดภัย ช่วยป้องกันสินค้าจากภัยธรรมชาติ อุบัติเหตุ และความเสียหายอื่นๆ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว

ความปลอดภัยของพนักงาน

  • อุบัติเหตุ : พื้นที่ที่ปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ เช่น การลื่นล้ม การถูกของตกใส่ การบาดเจ็บจากเครื่องจักร
  • อาชญากรรม : พนักงานทำงานอย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่ออาชญากรรม เช่น การปล้นจี้ การทำร้ายร่างกาย

สร้างภาพลักษณ์ที่ดี

  • ความน่าเชื่อถือ : โกดังที่ปลอดภัย แสดงถึงความน่าเชื่อถือ และความรับผิดชอบของธุรกิจ
  • ความมั่นใจของลูกค้า : ลูกค้าเกิดความมั่นใจ ไว้ใจ ในการสั่งซื้อสินค้า เพราะมั่นใจว่าสินค้าจะปลอดภัย

4. ขนาดและความจุของพื้นที่

ขนาดและความจุของพื้นที่โกดังต้องสอดคล้องกับปริมาณสินค้าที่ต้องจัดเก็บ รวมถึงการคาดการณ์ความต้องการในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้การจัดเก็บและบริหารสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับการขยายธุรกิจได้ในอนาคต ควรเลือกขนาดพื้นที่และความสูงของเพดานให้เหมาะสมกับประเภทสินค้า การจัดเก็บ และการขนย้าย ประเมินปริมาณสินค้าคงคลัง ปริมาณสินค้าเข้า-ออก เผื่อพื้นที่สำหรับการเติบโตในอนาคต

5. สาธารณูปโภคและระบบสนับสนุน

โกดังเปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของธุรกิจ ทำหน้าที่เก็บรักษาสินค้า สนับสนุนการกระจายสินค้า และเป็นฐานที่มั่นของธุรกิจ ดังนั้น การเลือกทำเลที่ตั้งโกดังที่มีระบบสาธารณูปโภคครบครัน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และประหยัดค่าใช้จ่าย

ระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นสำหรับโกดัง 

  • ไฟฟ้า : ระบบไฟฟ้าที่มั่นคง เพียงพอต่อการใช้งาน รองรับอุปกรณ์ เครื่องจักร ระบบทำความเย็น แสงสว่าง และระบบรักษาความปลอดภัย
  • น้ำประปา : น้ำประปาที่สะอาด ไหลแรง เพียงพอต่อการใช้งาน สำหรับการทำความสะอาด ดับเพลิง และอุปโภคบริโภค
  • อินเทอร์เน็ต : อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รองรับการใช้งานระบบบริหารจัดการสินค้าคงคลัง ระบบติดตามสินค้า การสื่อสาร และการทำงานออนไลน์
  • โทรศัพท์ : ระบบโทรศัพท์ที่ติดต่อสื่อสารได้สะดวก รองรับการติดต่อประสานงาน สั่งซื้อสินค้า และบริการลูกค้า

6. ความพร้อมของแรงงาน 

ทำเลที่ตั้งของโกดังควรอยู่ในพื้นที่ที่มีแรงงานที่มีทักษะและประสบการณ์เพียงพอ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการจัดการสินค้า การบริหารคลังสินค้า และงานด้านโลจิสติกส์อื่นๆ

การเลือกทำเลที่ตั้งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ให้ได้งานที่รวดเร็ว ลดความเสี่ยงต่อสินค้า สูญหาย เมื่อมีพนักงานที่มีคุณภาพช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 

7. ความเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทาน

ทำเลที่ตั้งของโกดังควรอยู่ใกล้กับแหล่งผลิต หรือตลาดลูกค้าเป้าหมาย เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงและบูรณาการกับห่วงโซ่อุปทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความรวดเร็วในการกระจายสินค้า ช่วยให้ประหยัดค่าขนส่งวัตถุดิบจากแหล่งผลิตมายังโกดัง แถมยังควบคุมคุณภาพวัตถุดิบได้ง่ายป้องกันความเสียหายระหว่างการขนส่งได้ มีความยืดหยุ่นในกระบวนการผลิตได้อย่างรวดเร็วรองรับความต้องการของลูกค้าได้

การเลือกทำเลที่ตั้งโกดังที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถกระจายสินค้า ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การพิจารณาปัจจัย 7 ข้อนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ในการเลือกทำเลที่ตั้งและเลือกทำเลที่ตั้งโกดังที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

PARK FACTORY ผู้ให้บริการการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล

หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ

ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY 

ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : property.user14@gmail.com
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8

Scroll to Top