ไฟ 30/100 กับ ไฟ 15/45 ต่างกันอย่างไร ? โรงงานควรเลือกใช้แบบไหนดี

การเลือกใช้ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างไฟ 30/100 และไฟ 15/45 ถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากแต่ละประเภทของไฟฟ้าจะมีลักษณะและคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละประเภทของเครื่องจักร เลือกใช้ไฟฟ้าที่ตรงกับความต้องการของเครื่องจักรและการผลิตจะช่วยให้โรงงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานได้มากที่สุด

ทำความรู้จักมิเตอร์ไฟฟ้า

มิเตอร์ไฟฟ้า (Electric Meter) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดการใช้พลังงานไฟฟ้าในบ้านหรือโรงงาน การเลือกขนาดของมิเตอร์ไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของสถานที่นั้น ๆ ซึ่งในโรงงาน ขนาดของมิเตอร์ไฟฟ้าจะถูกกำหนดตามการใช้พลังงานที่สูงหรือต่ำตามการใช้เครื่องจักร ขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าสำหรับโรงงานนั้นมีตั้งแต่ขนาด 15/45 ไปจนถึง 100/300 (ขนาดที่พบได้ทั่วไปคือ 15/45 และ 30/100) ซึ่งทั้งสองประเภทนี้เหมาะกับการใช้พลังงานในโรงงานแต่มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน

ไฟ 30/100 คืออะไร?

ไฟ 30/100 หรือที่เรียกกันว่าไฟ 30 แอมป์ 100 โวลต์ เป็นไฟที่มีการจ่ายพลังงานในระดับปานกลาง โดยตัวเลขทั้งสองนี้หมายถึงความสามารถในการจ่ายกระแสไฟฟ้าและแรงดันไฟฟ้าที่ใช้งานได้

• 30 แอมป์ (Amp) คือ ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่สามารถไหลผ่านได้
• 100 โวลต์ (Volt) คือ ระดับแรงดันไฟฟ้าที่ใช้

ไฟประเภทนี้เหมาะสำหรับเครื่องจักรที่มีการใช้งานไม่หนักมากหรือเครื่องจักรที่ไม่ต้องการพลังงานสูงจนเกินไป โดยส่วนใหญ่จะพบว่าใช้กับเครื่องจักรในอุตสาหกรรมที่มีการทำงานเป็นระยะเวลานาน แต่ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าสูง เช่น เครื่องทำความเย็น เครื่องทำน้ำอุ่น หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในสายการผลิตที่ไม่ต้องการพลังงานไฟฟ้ามากเกินไป

ไฟ 15/45 คืออะไร?

ไฟ 15/45 หรือที่เรียกว่าไฟ 15 แอมป์ 45 โวลต์ เป็นไฟที่มีพลังงานสูงกว่าหรือมีการจ่ายกระแสและแรงดันไฟฟ้าที่มากกว่าระบบไฟ 30/100 โดยตัวเลขทั้งสองนี้มีความหมายดังนี้

• 15 แอมป์ (Amp) คือ ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่สามารถไหลผ่านได้
• 45 โวลต์ (Volt) คือ ระดับแรงดันไฟฟ้าที่ใช้

ไฟประเภทนี้เหมาะสำหรับเครื่องจักรที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าสูงหรือเครื่องจักรที่ทำงานหนัก โดยมักใช้ในอุตสาหกรรมที่มีการผลิตสินค้าในปริมาณมากหรือเครื่องจักรที่มีการใช้งานในช่วงเวลานาน เช่น เครื่องจักรในการผลิตหรือแปรรูปวัสดุที่ต้องการการทำงานอย่างต่อเนื่องและมีพลังงานสูง

ความแตกต่างระหว่างไฟ 30/100 กับ ไฟ 15/45

ความแตกต่างหลักๆ ระหว่างไฟ 30/100 และไฟ 15/45 อยู่ที่ลักษณะการใช้งานและพลังงานที่สามารถให้กับเครื่องจักร

1. ระดับกระแสไฟฟ้า (Amp)
   • ไฟ 30/100 มีการจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่ 30 แอมป์ ซึ่งเหมาะกับเครื่องจักรที่ไม่ต้องการกระแสไฟฟ้าสูงเกินไป
   • ไฟ 15/45 การจ่ายกระแสไฟฟ้าที่ 15 แอมป์ ซึ่งเหมาะกับเครื่องจักรที่ต้องการพลังงานไฟฟ้ามากกว่าหรือมีการทำงานที่หนักหน่วงกว่า
2. ระดับแรงดันไฟฟ้า (Volt)
   • ไฟ 30/100 ใช้แรงดันไฟฟ้าที่ 100 โวลต์ ซึ่งเหมาะกับเครื่องจักรที่ไม่ต้องการแรงดันไฟฟ้าสูง
   • ไฟ 15/45 ใช้แรงดันไฟฟ้าที่ 45 โวลต์ ซึ่งจะให้พลังงานไฟฟ้าที่สูงกว่าทำให้เหมาะกับเครื่องจักรที่ต้องการการทำงานที่มีพลังงานสูง
3. การใช้งานในโรงงาน
   • ไฟ 30/100 ใช้กับเครื่องจักรที่มีการทำงานไม่หนัก เช่น เครื่องที่ใช้ในกระบวนการผลิตที่ไม่ต้องการพลังงานไฟฟ้าสูงมาก
   • ไฟ 15/45 ใช้ในเครื่องจักรที่ต้องการพลังงานมาก เช่น เครื่องจักรในอุตสาหกรรมหนัก หรือเครื่องจักรที่ต้องการการทำงานอย่างต่อเนื่องและมีความทนทานสูง

โรงงานควรเลือกใช้ไฟแบบไหน?

การเลือกใช้ไฟควรพิจารณาจากขนาดของโรงงานและประเภทของเครื่องจักรที่ใช้ หากโรงงานของคุณใช้เครื่องจักรที่มีพลังงานไม่สูงมากหรือทำงานในระยะเวลาสั้นๆ เช่น เครื่องทำความเย็น เครื่องบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ต้องใช้พลังงานมากนัก การเลือกใช้ไฟ 30/100 จะเหมาะสมกว่า เนื่องจากมีพลังงานที่เพียงพอและประหยัดค่าใช้จ่าย

สำหรับโรงงานที่ใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่หรือเครื่องจักรที่ต้องการการทำงานต่อเนื่องและต้องการพลังงานไฟฟ้าสูง เช่น เครื่องจักรในอุตสาหกรรมการผลิตหรือแปรรูปวัสดุ ควรเลือกใช้ไฟ 15/45 ซึ่งสามารถรองรับพลังงานที่สูงขึ้นและช่วยให้เครื่องจักรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเลือกขนาดของมิเตอร์ไฟฟ้าอย่างถูกต้องจะช่วยให้โรงงานสามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า ทำให้โรงงานไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและสามารถบริหารจัดการพลังงานได้อย่างเหมาะสม

บทความที่เกี่ยวข้อง

• เหตุผลที่ควรเลือก หลอดไฟ LED สำหรับโรงงานควรเลือกอย่างไร
• ระบบไฟในโกดัง 3 เฟส จำเป็นไหม? พร้อมวิธีการเช็คไฟรั่ว
• โรงงานสีเขียวมาตรฐานอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ที่ควรจับตามอง

PARK FACTORY ผู้ให้บริการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล

หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ

ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY 

ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : [email protected]
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8