return percentage

อัตราผลตอบแทน เปอร์เซ็น คืออะไร ทำไมนักธุรกิจ และนักลงทุนมือใหม่ถึงต้องรู้

อัตราผลตอบแทนเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในโลกของธุรกิจและการลงทุนเลยก็ว่าได้ มันเป็นตัวบ่งบอกถึงความคุ้มค่าและประสิทธิภาพของการลงทุนหรือธุรกิจที่นักลงทุนและนักธุรกิจตัดสินใจเลือก อัตราผลตอบแทนมักถูกนำมาใช้เพื่อวัดความสามารถในการสร้างรายของการลงทุนแต่ละสินทรัพย์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ หุ้น หรือแม้กระทั่งธุรกิจส่วนตัว

หนึ่งในแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับอัตราผลตอบแทนที่หลายคนอาจเคยได้ยินคือ “Yield” ซึ่งเป็นคำที่ใช้บ่อยในแวดวงการลงทุน ทั้งในด้านอสังหาริมทรัพย์และการเงินโดยทั่วไป Yield มีความหมายที่กว้างและสามารถนำไปใช้ในบริบทต่างๆ ได้ อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจในความหมายและวิธีการคำนวณ Yield เป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยให้นักลงทุนประเมินผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความหมายของ Yield

Yield หมายถึงอัตราผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน หรือรายได้ที่ได้รับจากสินทรัพย์หนึ่งๆ โดยคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุนทั้งหมด Yield มักถูกใช้ในบริบทของการลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้จากค่าเช่า ตัวอย่างเช่น หากคุณลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และได้รับค่าเช่าจากทรัพย์สินนั้น Yield จะเป็นตัวชี้วัดที่บอกถึงผลตอบแทนจากค่าเช่าเมื่อเทียบกับมูลค่าทรัพย์สิน

what is yield

วิธีการคำนวณหาค่า Yield

การคำนวณ Yield ทำได้โดยนำรายได้สุทธิจากสินทรัพย์มาหารด้วยมูลค่าการลงทุนเริ่มต้น จากนั้นคูณด้วย 100 เพื่อแสดงผลเป็นเปอร์เซ็นต์ สูตรพื้นฐานของ Yield คือ

yield

ตัวอย่างเช่น หากคุณลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่า 3,000,000 บาท และได้รับค่าเช่ารายปีจำนวน 150,000 บาท Yield จะเท่ากับ

example-yield

จากตัวอย่าง Yield 5% จะหมายความว่าคุณได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในอัตรา 5% ต่อปี ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับการลงทุนประเภทอื่นๆ เพื่อพิจารณาว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นมีความคุ้มค่าหรือไม่

วิธีการคำนวณอัตราผลตอบแทนอสังหาริมทรัพย์

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่นักธุรกิจและนักลงทุนมือใหม่มักเลือกใช้ การคำนวณอัตราผลตอบแทนในอสังหาริมทรัพย์มีหลายวิธี เช่น คำนวณจากรายได้ค่าเช่าที่ได้รับต่อปี หรือนำมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของอสังหาริมทรัพย์มาคำนวณ หากคุณซื้อบ้านหนึ่งหลังในราคา 2,000,000 บาท และปล่อยเช่าได้เดือนละ 20,000 บาท รายได้ต่อปีจากค่าเช่าจะอยู่ที่ 240,000 บาท ดังนั้น อัตราผลตอบแทนจากค่าเช่าจะอยู่ที่ 12% ต่อปี

นอกจากนี้ยังมีอัตราผลตอบแทนจากการขาย (Capital Gains) ซึ่งสามารถคำนวณได้จากส่วนต่างระหว่างราคาที่ซื้อกับราคาที่ขาย ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อบ้านในราคา 2,000,000 บาท และขายได้ในราคา 2,500,000 บาท คุณจะได้กำไร 500,000 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 25%

ทำไมนักธุรกิจและนักลงทุนมือใหม่ต้องรู้เรื่อง Yield?

  1. การประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน

Yield เป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

  1. การเปรียบเทียบโอกาสการลงทุน

Yield เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้เปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุนประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ หุ้น หรือพันธบัตร ทำให้คุณสามารถเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงและเป้าหมายของคุณ

  1. การวางแผนทางการเงิน

นักธุรกิจและนักลงทุนสามารถใช้ข้อมูล Yield เพื่อวางแผนทางการเงินและการลงทุนในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. การจัดการความเสี่ยง

Yield สามารถบอกถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน หาก Yield สูงอาจแปลว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนสามารถพิจาร

Precautions for use yield

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ Yield

แม้ว่า Yield จะเป็นตัวชี้วัดที่มีประโยชน์ แต่ควรระวังว่ามันเป็นเพียงแค่หนึ่งในหลายๆ ตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน โดยปกติแล้ว นักลงทุนไม่ควรพิจารณาเพียงแค่ Yield เพียงอย่างเดียว แต่ควรมองไปถึงปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ต้นทุนในการบำรุงรักษา หรือแม้กระทั่งภาวะเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนในระยะยาว

การเข้าใจและวิเคราะห์ Yield อย่างรอบคอบจะช่วยให้นักธุรกิจและนักลงทุนมือใหม่สามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมั่นใจมากขึ้น แต่หลายคนคงสงสัยว่าYield และอัตราผลตอบแทน Roi แตกต่างกันอย่างไร ถ้าจะอธิบายง่ายๆ Yield เป็นส่วนหนึ่งของอัตราผลตอบแทน แต่มีการคำนวณและใช้ในบริบทที่เฉพาะเจาะจง เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือตราสารหนี้ หวังว่าข้อมูลในบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนักลงทุนในการคำนวลผลตอบแทนอสังหานะครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

PARK FACTORY ผู้ให้บริการการขายโกดัง และให้เช่าโกดังโรงงานสำหรับ SME ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล

หากคุณกำลังมองหาโกดังคลังสินค้า ที่ Park Factory เราเป็นผู้ให้บริการโกดังโรงงานสำหรับ SME ด้วยโครงการสีเขียว สภาพแวดล้อมสวยงามน่าอยู่ ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของโกดังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร หรือ Landscape ออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้เช่าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด → เข้าชมโครงการ

ช่องทางการติดต่อ PARK FACTORY 

ที่ตั้ง : 176 ซอยกาญจนาภิเษก 5 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรติดต่อ : 092-379-7444, 081-751-4440
อีเมล์ : property.user14@gmail.com
Google Map : https://maps.app.goo.gl/STYgHNRPHGAZZ6SX8 

Scroll to Top